“แอนแทรกซ์” เชื้อร้ายจากสัตว์…ภัยเงียบที่คุณอาจไม่เคยรู้

โรคแอนแทรกซ์คืออะไร ?
โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) เกิดจากแบคทีเรีย ซึ่งมักพบในสัตว์กินหญ้า เช่น วัว ควาย แพะ แกะ ซึ่งเมื่อสัตว์ติดเชื้อ อาจไม่มีอาการมากนัก แต่สุดท้ายจะตายอย่างเฉียบพลัน แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ เชื้อจากสัตว์สามารถแพร่มาถึงคนได้หลายทาง
เชื้อจากสัตว์แพร่มาสู่คนได้อย่างไร/ ติดแล้วมีอาการใดบ้าง ?
- ผ่านผิวหนัง โดยการสัมผัสเชื้อผ่านผิวหนังที่มีบาดแผล รอยถลอก รอยขีดข่วน การชำแหละซากสัตว์หรือสัมผัสหนัง ขน หรือเลือดสัตว์ที่เป็นโรค
อาการ : เริ่มจากอาการคัน มีตุ่มแดง แล้วเป็นตุ่มพองใส กลายเป็นแผลดำคล้ายบุหรี่จี้ พร้อมบวมน้ำรอบแผล มักไม่ปวดแผลยกเว้นติดเชื้อแทรกซ้อน มักพบบริเวณ ศีรษะ คอ ต้นแขน และมือ
2. ผ่านอาหาร โดยการกินเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อและปรุงไม่สุก เช่น ลาบ ลู่
อาการ : เริ่มต้นเหมือนไข้หวัดทั่วไป เช่น ปวดเมื่อย ไอเล็กน้อย เจ็บหน้าอก แต่จะรุนแรงขึ้นอย่างเฉียบพลัน เกิดหายใจลำบาก หายใจเสียงดัง เหงื่อออกมาก ช็อก ตัวเขียว และอาจเสียชีวิตได้ภายใน 3–4 วัน
3. ผ่านการหายใจ โดยการสูดดมสปอร์ของเชื้อเข้าไป เช่น จากขนสัตว์ หรือฝุ่นปุ๋ยที่ทำจากกระดูกสัตว์ป่น
อาการ : ทำให้ลำไส้อักเสบ บวมน้ำ เลือดออก อุดตัน หรือทะลุ เสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือด ช็อก หากไม่รักษาทันทีอาจอันตรายถึงชีวิต
สิ่งที่ควรรู้ เพื่อการป้องกันตนเอง
- หลีกเลี่ยงสัมผัสแตะต้องซากสัตว์ที่ตายผิดธรรมชาติ โดยเฉพาะในฟาร์ม
- ล้างมือบ่อย ๆ หรือทำความสะอาดร่างกายทุกครั้งหลังสัมผัสสัตว์
- อย่ากินเนื้อสัตว์ที่ไม่รู้แหล่งที่มา หรือปรุงไม่สุก โดยเฉพาะเนื้อวัว ควาย แพะ แกะ
- แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที หากพบสัตว์ตายผิดปกติในชุมชน เพื่อให้มีการตรวจสอบ ป้องกันการแพร่ระบาด
- แม้แผลผิวหนังบางชนิดจะดูเล็กน้อย เช่น ตุ่มหรือแผลแดง แต่หากเกิดขึ้นหลังสัมผัสสัตว์ หรือกินเนื้อสัตว์ที่ไม่แน่ใจแหล่งที่มา ควรเฝ้าระวังอาการ และขอคำแนะนำจากแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในชุมชนเพื่อความมั่นใจ
แอนแทรกซ์เป็นโรคติดต่อจากสัตว์ที่อาจรุนแรงถึงชีวิต จึงควรใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เกษตรกร คนชำแหละเนื้อ คนที่ทำงานในโรงงานฟอกหนัง ขนสัตว์ หรือคนที่กินเนื้อสัตว์ที่ไม่ปรุงสุก ซึ่งหากมีอาการผิดปกติดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์ทันที
แหล่งข้อมูล : สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย, ส่วนโรคปศุสัตว์ สำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัด โรคสัตว์ กรมปศุสัตว์